หากจะถามถึงอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ และจำเป็นต่อโรงงานอุตสาหกรรม ก็คงจะขาดมอเตอร์เกียร์ไปไม่ได้เลย เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ระบบการทำงานของเครื่องจักรนั้นสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการลำเลียงสินค้า ซึ่งหากว่าเป็นมอเตอร์ธรรมดาจะไม่สามารถเอามาใช้กับงานลำเลียงสินค้าได้ นั่นก็มาจากการที่มีรอบความเร็วที่สูงเกินไปนั่นเอง การใช้มอเตอร์แบบเกียร์นี้เองจึงทำให้ตอบโจทย์ได้มากกว่า และยังสามารถปรับความเร็วของมอเตอร์ และปรับแรงบิดได้ด้วย ทั้งนี้อาจจะมีผู้ที่ไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร ในบทความนี้จึงจะมาอธิบายให้ได้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น 

มอเตอร์เกียร์ คืออะไร 

มอเตอร์เกียร์ คือ อุปกรณ์ที่มีหน้าที่ในการส่งกำลังให้กับเครื่องจักรต่าง ๆ ที่อยู่ในโรงงาน โดยการใช้มอเตอร์ประเภทนี้ก็เพื่อที่จะให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานได้ตรงตามงานที่ต้องการมากที่สุด ซึ่งหลักการการทำงานของมอเตอร์ชนิดนี้ก็จะเหมือนกันกับมอเตอร์ทั่วไปเลย ที่จะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล และมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานด้วยเช่นเดียวกันกับมอเตอร์แบบอื่น 

ประเภทของ มอเตอร์เกียร์ มีอะไรบ้าง 

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า มอเตอร์เกียร์ มีให้เลือกใช้หลากหลายประเภทเลย โดยการที่จะเลือกใช้มอเตอร์ก็จำเป็นที่จะต้องทราบด้วยว่ากำลังของมอเตอร์เป็นอย่างไร และเป็นประเภทไหน ซึ่งประเภทของมอเตอร์เกียร์สามารถแบ่งได้หลัก ๆ ดังนี้ 

  • มอเตอร์แบบที่ติดตั้งด้วยขาดตั้งเพลาขนาน  
  • มอเตอร์แบบที่มีแกนตั้งฉาก  
  • มอเตอร์แบบที่ติดตั้งด้วยหน้าแปลนเพลาขนาน  
  • มอเตอร์แบบที่มีคลัตช์เบรก  

วิธีการเลือกใช้งาน ควรเลือกอย่างไร 

มาถึงในส่วนของการเลือกมอเตอร์เกียร์ไปใช้งานกันบ้าง เนื่องจากว่ามีมอเตอร์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบมาก ๆ จึงจำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องเลือกให้เหมาะสม โดยในขั้นแรกก็ควรจะรู้ก่อนว่ามอเตอร์ที่จะเอาไปใช้นั้น ต้องการที่จะนำไปใช้กับงานแบบไหน เป็นโหลดที่มีขนาดหนักแค่ไหน เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้สามารถคำนวณหากำลังมอเตอร์ที่เหมาะสมกับโหลดที่ต้องการใช้ได้ รวมถึงทำให้สามารถทราบด้วยว่าควรเลือกใช้มอเตอร์แบบไหน  

นอกจากนั้นแล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกมอเตอร์เกียร์ให้เหมาะสมกับเครื่องจักรที่ใช้งานด้วย โดยจะต้องดูว่าเครื่องจักรที่ต้องการใช้มอเตอร์นั้นเป็นเครื่องจักรแบบไหน และมีการติดตั้งเครื่องจักรอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะเป็นการช่วยให้สามารถเลือกประเภทของมอเตอร์ที่เหมาะสมได้ และยังช่วยให้สามารถเลือกประเภทของมอเตอร์ได้ตรงกับรูปแบบการติดตั้งเครื่องจักรด้วยนั่นเอง ซึ่งหากว่าสามารถเลือกมอเตอร์ได้ถูกต้อง ก็จะช่วยให้การทำงานออกมาสมบูรณ์มากแน่นอน และไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมานั่นเอง