เลือกหมอเด็ก พระราม2และจังหวัดอื่นๆ ต้องดูจากอะไรบ้าง

การรักษาโรคของเด็กๆ นั้นเป็นสิ่งที่ยากพอสมควร เพราะร่างกายของเด็กไม่เหมือนกับผู้ใหญ่อย่างที่หลายๆ คนคาดคิด อย่างไรก็ดีหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากให้การรักษาโรคของลูกน้อยเป็นไปอย่างราบรื่นและเต็มประสิทธิภาพ มาดูพร้อมๆ กันดีกว่าหรือไม่ว่าจะเลือกหมอเด็ก พระราม2หรือหมอเด็กในจังหวัดที่คุณอยู่อย่างไรบ้าง  1.ความชำนาญในการรักษาโรค  การพิจารณาอันดับแรกได้แก่ความชำนาญในการรักษาโรค เพราะแพทย์แต่ละคนก็ชำนาญในแต่ละด้านที่แตกต่างกันออกไป หลายๆ คนอาจจะคิดเหมือนกันใช่หรือไม่ว่าความชำนาญในตัวโรคนั้นมีความแตกต่างกันอย่างยิ่ง โดยแพทย์บางคนอาจจะถนัดในโรคหนึ่งแต่ไม่ถนัดในอีกโรคหนึ่ง ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรหาข้อมูลเบื้องต้นเสียก่อนจะดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหมอเด็ก พระราม2 หรือที่อื่นๆ  2.ความเอาใจใส่ในตัวคนไข้  การเอาใจใส่ในตัวคนไข้คือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะว่าคนไข้ที่เป็นเด็กนั้นไม่สามารถสื่อสารได้ว่าตนเองเจ็บปวดตรงจุดไหนในร่างกายหรือว่ารู้สึกอย่างไร ส่วนใหญ่แล้วการเอาใจใส่ในตัวคนไข้ของแพทย์จะช่วยให้การรักษาโรคเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการเอาใจใส่ในตัวคนไข้จะช่วยให้ตัวคนไข้หรือเด็กไว้วางใจในแพทย์อีกด้วย  3.มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการเข้าถึงตัวคนไข้ซึ่งเป็นเด็ก  สำหรับสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ได้แก่ความมุ่งมั่นตั้งใจในการเข้าถึงตัวของคนไข้ซึ่งเป็นเด็กของแพทย์นั้นคือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าเด็กเป็นวัยที่แม้จะซื่อใสและบริสุทธิ์สักเพียงใด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความไว้วางใจกับใครง่ายๆ ในทางตรงกันข้าม เด็กอาจมีสัญชาตญาณเตือนว่าคนใดที่หวังดีหรือไม่หวังดีอีกด้วย อย่างไรก็ดีการเลือกหมอเด็ก พระราม2ก็จะทำให้เกิดความมั่นใจในตัวกุมารแพทย์มากขึ้นนั่นเอง  4.มีความสามารถในการสื่อสารกับเด็กได้ดี  อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่สุดได้แก่การที่แพทย์นั้นมีความสามารถในการสื่อสารกับเด็กๆ ได้ดีนั่นเอง แม้เด็กจะเป็นวัยที่สดใสและร่าเริงอยู่เสมอ แต่การสื่อสารกับเด็กนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้หลักวิชาการเข้ามาช่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุมารแพทย์ที่ต้องตรวจร่างกายเด็ก ซึ่งในสายตาของเด็กนั้นกุมารแพทย์คือคนแปลกหน้าคนหนึ่งก็ว่าได้  การพาลูกน้อยไปหากุมารแพทย์ที่มีจิตใจที่อ่อนโยน และทำการตรวจรักษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนนั้น จะช่วยให้เด็กๆ มีความสุขมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ลูกน้อยของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่าเดิม หายจากการเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว 

เครื่องปั๊มนม

วิธีเลือกเครื่องปั๊มนม

อาจจะกล่าวได้ว่าเครื่องปั๊มนมเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับคุณแม่ทุกคนอย่างยิ่ง เพราะว่าปัจจุบันนี้คุณแม่เป็นพนักงานออฟฟิศ ส่งผลให้ไม่มีเวลาให้ลูกดื่มนม โดยคุณแม่ที่ไม่มีเวลาในการดื่มนม มาดูพร้อมๆ กันดีกว่าว่าวิธีเลือกเครื่องปั๊มนมเป็นอย่างไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กันเลย  เครื่องปัมนมมีกี่ประเภท  สำหรับเครื่องปั๊มนมมีดังต่อไปนี้  1.เครื่องแบบใช้มือ   สำหรับเครื่องแบบแรกนั้น เป็นแบบคันโยก โดยไม่เปลืองไฟและยังสามารถพกไปใช้งานนอกสถานที่อีกด้วย แต่ข้อเสียก็คือใช้เวลานานกว่าการปั๊มนมแบบอื่นๆ ทำให้รู้สึกปวดกล้ามเนื้อได้อีกด้วย  2.เครื่องปั๊มไฟฟ้า  สำหรับเครื่องปั๊มแบบต่อไปก็คือแบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากไฟบ้าน หรือใช้ถ่านอัลคาไลน์ สามารถปั๊มได้ทีละเต้าเท่านั้น  3.เครื่องปั๊มไฟฟ้าแบบคู่  แบบนี้ก็จะเหมือนกับเครื่องปั๊มไฟฟ้าแบบเดี่ยว แต่ว่าสามารถปั๊มได้พร้อมๆ กันถึงสองเต้า ทำให้สามารถประหยัดเวลาในการใช้งานได้เป็นอย่างดี  4.เครื่องปั๊มสำหรับโรงพยาบาล  อีกหนึ่งแบบก็คือเครื่องปั๊มสำหรับพยาบาล โดยข้อดีก็คือมีตัวเครื่องขนาดใหญ่ และใช้งานในหอเด็กอ่อนสำหรับกระตุ้นให้น้ำนมไหลหลังจากคลอดได้อีกด้วย  จะเลือกซื้ออย่างไรดี  ข้อดีของการเลือกเครื่องปั๊มนมมาใช้งานควรเลือกดังต่อไปนี้  1.เวลาในการปั๊มนม  สำหรับคุณแม่ที่มีเวลาปั๊มนมอยู่แล้ว หรือเลี้ยงลูกเองที่บ้านอยู่ก็สามารถปั๊มนมได้สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หรือว่าใช้เครื่องปั๊มแบบมือก็เพียงพอ  แต่หากว่าคุณแม่ต้องการทำงานนอกบ้าน ก็อาจจะเลือกเป็นเครื่องปั๊มไฟฟ้า หรือเครื่องปั๊มไฟฟ้าคู่ สามารถประหยัดเวลาในการปั๊มได้อย่างง่ายดายที่สุด ในขณะที่กรณีลูกน้อยคลอดก่อนกำหนดก็อาจต้องใช้เครื่องปั๊มของทางโรงพยาบาลไปก่อนจะดีกว่า  2.งบประมาณในการซื้อ  สำหรับข้อที่ควรพิจารณามากที่สุดก็คืองบประมาณในการซื้อ หากว่ามีงบประมาณมากก็ควรซื้อในรูปแบบเครื่องปั๊มไฟฟ้าจะดีที่สุด เพราะการซื้อแบบไฟฟ้าทำให้คุณแม่ประหยัดเวลาในการปั๊มนั่นเอง  และเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าแม่ลูกอ่อนเองก็ไม่มีเวลาในการทำกิจกรรมอะไรมากมายแต่ละวัน เพราะแค่ลำพังเลี้ยงลูกอย่างเดียวก็เหนื่อยมากพออยู่แล้วนั่นเอง  แต่สำหรับคุณแม่ที่มีงบประมาณจำกัดอาจจะต้องพิจารณาเป็นเครื่องแบบมือไปก่อน เพราะเครื่องแบบนี้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดเลยทีเดียว  และนี่ก็คือสิ่งที่หลายๆ คนควรรู้เกี่ยวกับการเลือกเครื่องปั๊มนมจะดีกว่าหรือไม่หากเราพิจารณาให้ตอบโจทย์สำหรับใช้งานของตนเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้เครื่องปั๊มที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

ของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการ

แนะนำบล็อกไม้ ของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการที่จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานได้มากกว่าเดิม

บล็อกไม้จะถือเป็นอีกหนึ่งของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นของเล่นที่ให้ความสนุกนานได้เป็นอย่างดี เพราะบล็อกไม้จะมีรูปทรงต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังต่อตามโจทย์ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การต่ออาคารบ้านเมือง การต่อเป็นรถไฟ หรือการต่อเป็นรูปทรงต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งจะถือว่านอกจากให้ความสนุกสนานได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสามารถฝึกฝนทักษะ และสร้างเสริมจินตนาการให้แก่ลูกน้อยได้อีกด้วย  เพลิดเพลินไปกับการเล่นบล็อกไม้ ของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการที่สามารถต่อได้หลากหลายรูปทรง  อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า บล็อกไม้จะมีรูปทรงให้เลือกอย่างหลากหลายเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วบล็อกไม้มักจะเป็นรูปทรงเรขาคณิต ไม่ว่าจะเป็น ทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า, ทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน, ทรงสี่เหลี่ยมคางหมู, ทรงหกเหลี่ยมด้านเท่า, และทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้วรูปทรงเหล่านี้จะมีขนาดและมีสีสันที่แตกต่างกันออกไป และยังสามารถต่อบล็อกไม้ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น  บล็อกไม้สร้างเมือง : โดยปกติแล้วเด็ก ๆ มักจะมีภาพบานอยู่ในจินตนาการกันทั้งสิ้น และนอกจากการวาดเป็นภาพออกมาแล้ว บล็อกไม้เหล่านี้ยังสามารถสานฝันให้แก่เด็ก ๆ ได้อีกด้วย เพราะบล็อกไม้จะมาพร้อมกับรูปทรงที่หลากหลาย สามารถต่อเรียงเป็นบ้านหรือปราสาทได้ตามต้องการ ซึ่งจะถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเสริมสร้างจินตนาการ และให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี  บล็อกไม้รถไฟลาก : สำหรับบล็อกไม้รถไฟลากโดยส่วนใหญ่แล้วจะมาพร้อมกับรูปเรขาคณิตและสายจูง ซึ่งจะสามารถแยกชิ้นส่วนออกมาได้ โดยของเล่นบล็อกไม้รถไฟลากนั้น นอกจากจะช่วยในเรื่องของความสนุกสนานได้แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยฝึกในด้านการทำงานของมือกับตาให้มีความสัมพันธ์กัน อีกทั้งยังสามารถฝึกฝนในด้านการนับจำนวนตัวเลขและการใช้กล้ามเนื้อมือมัดเล็ก ทำให้เด็กรู้จักการสังเกต พร้อมการวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย  […]